วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2560

กิโมโนศาสตร์ #6: Komon

     กิโมโน Komon (小紋着物)

     กิโมโน Komon เป็นกิโมโนที่มีลายเหมือนกันตลอดทั้งตัว ชื่อกิโมโนประเภทนี้แปลตรงตัวได้ว่า "ลายเล็กๆ" แต่ความจริงแล้วไม้ต้องเป็นลายเล็กก็ได้ เพียงแค่เป็นลายเดียวกันทั่วกิโมโนก็จัดว่าอยู่ในประเภทนี้ และแตกต่างจากกิโมโน Houmongi ที่อาจมีลายเยอะคล้ายกัน แต่ไม่ซ้ำทั้งชุด


กิโมโน Komon มีลายเดียวซ้ำกันตลอดทั้งตัว

     กิโมโนประเภทนี้มีหลายได้หลากหลายแบบมาก ทั้งลายมาก ลา
ยน้อย ลากสดใส ลายยแบบเบาบาง ลายเรขาคณิต หรือแม้กระทั่งลายเส้น ซึ่งลายเหล่านี้มีความเชื่อว่า ยิ่งลายใหญ่ ยิ่งเหมาะสำหรับหญิงสาวที่อายุน้อย

     กิโมโน Komon ถูกจัดให้เป็นกิโมโนที่ไม่เหมาะสำหรับงานทางการ อาจเป็นโอกาสทั่วไปแทน เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ ใช้สวมเดินเล่นในเมือง ไปซื้อของ หรือใส่ในบ้าน ด้วยความไม่เป็นทางการเหล่านี้ จึงทำให้ไม่มีการเพิ่มความเป็นทางการให้กิโมโน Komon ด้วยการเติมสัญลักษณ์ประจำตระกูลลงไปบนหลังหรือแขนกิโมโน แต่บางครั้งก็อาจจัดเป็นระดับกึ่งทางการ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับลายว่าเหมาะสมหรือไม่ ในด้านชนิดของผ้า ผ้าไหมและใยสังเคราะห์จะมีความเป็นทางการมากกว่าผ้าธรรมดา และการเติมทองลงไปที่ลายบนกิโมโนจะเพิ่มระดับความทางการขึ้น

     โอบิเกือบทุกชนิดสามารถใส่คู่กับกิโมโนชนิดนี้ได้ ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความเข้ากันของลาย และโอกาสที่ใส่ ทั้งยังสามารถมัดโอบิได้หลายเงื่อนมากกว่ากิโมโนทั่วไปด้วย

Fumiou, Tai Sakura Okiya
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Maihanami - blog

วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560

รำอย่างงาม ตามฉบับญี่ปุ่น #5: Hagi Kikyo

เพลง : Hagi Kikyou (萩桔梗)
แบบฉบับ : Kamishichiken

By: aries61music on Youtube
ไมโกะ Satoryu จากโอกิยะ Nakasato

แบบฉบับ : Miyagawacho

By: Sbrd on Youtube
ไมโกะ Korin จากโอกิยะ Kaden
และเกโกะ Miehina จากโอกิยะ Harutomi

By: discodog01 on Youtube
ไมโกะ Satoai จากโอกิยะ Kawahisa

Fumiou, Tai Sakura Okiya

วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เกอิชา นาฏนารี #5: การฝึกฝนเกอิชา

     ในสมัยก่อน การฝึกฝนเด็กสำหรับเป็นเกอิชาจะเริ่มตั้งแต่ยังเล็กๆ บางคนถูกผูกมัดกับสำนักเกอิชา (โอกิยะ [Okiya : 置屋]) ในฐานะบุตรบุญธรรม บุตรสาวของเกอิชาก็จะถูกเลี้ยงดูขึ้นมาเพื่อเป็นเกอิชาตามรอยบุพการีของพวกเธอ และถูกเรียกว่า “Atotori (跡取り)” ที่แปลว่า “ทายาท” ของโอกิยะ

     เกอิชาฝึกหัดจะถูกเรียกว่า “ไมโกะ (Maiko : 舞妓)” ส่วนมากพวกเธอก็จะถูกผูกมัดด้วยสัญญากับโอกิยะที่อาศัยอยู่ ช่วงนี้เธอจะไม่มีอุปกรณ์ประกอบอาชีพเป็นของตัวเอง ทั้งอาหาร กิโมโน โอบิ หรือแม้แต่ค่าเล่าเรียนศิลปะเฉพาะทางล้วนเป็นของโอกิยะทั้งสิ้น เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายเหล่านี้ต่อไมโกะหนึ่งคนนั้นสูงมาก พวกเธอจึงต้องแบกรับหนี้สินเหล่านี้ และจ่ายคืนให้โอกิยะด้วยค่าจ้างที่เธอได้รับจากการทำงานเป็นเกอิชาฝึกหัด แต่เมื่อใดที่เธอได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นเป็นเกอิชาเต็มตัว และจ่ายเงินคืนให้โอกิยะครบแล้ว เธอก็สามารถออกจากโอกิยะ ไปอาศัยอยู่ด้วยตนเอง และทำงานเป็นเกอิชาที่ไม่ต้องพึ่งพาสำนักอีกต่อไป นั่นหมายความว่าเธอจะได้รับเงินทั้งหมดจากการทำงานเป็นรายรับ แต่ก็ต้องแลกกับรายจ่ายค่าอาหาร เครื่องแต่งกาย และค่าเล่าเรียนทั้งหมดเช่นกัน

     ก่อนจะได้เป็นไมโกะ จะต้องผ่านขั้นแรกซึ่งก็คือการเป็น “Shikomi (仕込み)” หรือขั้นเตรียมการก่อน หน้าที่ของ Shikomi คืองานบ้านและการศึกษาศิลปะขั้นพื้นฐาน แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานได้เช่นไมโกะหรือเกโกะ จากนั้นจะเริ่มการฝึกอย่างเป็นทางการด้วยการเป็น “Minarai (見習い)” ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า “การเรียนรู้จากการดู” หน้าที่ในขั้นนี้คือการดูและศึกษาการทำงาน การพูดคุยกับแขกของรุ่นพี่ไมโกะและเกโกะในงานเลี้ยงแบบญี่ปุ่น (Ozashiki : お座敷) การทำเช่นนี้จะช่วยให้ Minarai ได้ศึกษาการทำงานจริงๆ ของไมโกะ เกโกะ และศึกษาในตัวตนของลูกค้า แม้ว่า Minarai ได้เข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ความสามารถของพวกเธอก็ยังไม่ได้รับการยอมรับถึงระดับนั้น และพวกเธอจะแต่งกายไม่เหมือนไมโกะหรือเกโกะ เหตุเพราะเป็นความตั้งใจจะทำให้แขกสังเกตและพูดถึงเธอ Minarai มักถูกจ้างไปด้วย แต่อาจไม่ได้รับการเชิญอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของงานเลี้ยง เพราะแต่เดิม Minarai จะตามพี่สาว (รุ่นพี่ไมโกะหรือเกโกะ [Onee-san : お姉さん]) ไปที่งานเลี้ยงเพื่อศึกษาการทำงานของรุ่นพี่โดยเฉพาะ โดยมีค่าจ้างเพียงหนึ่งในสามของค่าจ้างปกติเท่านั้น อีกประการหนึ่งคือ Minarai มักไปร่วมงานเลี้ยงในที่เฉพาะที่ถูกกำหนดไว้ เรียกว่า Minarai-chaya (見習い茶屋) และถูกอบรมสั่งสอนโดยคุณแม่ (Okaa-san : お母さん) ที่หมายความถึงผู้ดูแลโอกิยะ ด้วยเหตุนี้พวกเธอจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรื่อยๆ เช่น การพูดคุยหรือเกมในงานเลี้ยง ซึ่งไม่มีสอนในโรงเรียน ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์หรือมากกว่านั้นของการเป็น Minarai

Minarai

     หลังจากผ่านขั้น Minarai มาแล้ว พวกเธอจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเกอิชาฝึกหัดหรือ “ไมโกะ” ที่แปลว่าเด็กร่ายรำ ขั้นนี้อาจกินระยะเวลายาวนาวถึง 5 ปี มีการเรียนรู้ผ่านรุ่นพี่ไมโกะหรือเกโกะ โดยอาศัยความสัมพันธ์ฉันท์พี่สาวน้องสาว (Imouto-san : 妹さん) เป็นสำคัญ รุ่นพี่ไมโกะหรือเกโกะจะคอยแนะนำรุ่นน้องถึงทุกสิ่งที่ต้องใช้กับการทำงานใน Hanamachi (花街 ชื่อเรียกโดยทั่วไปของแหล่งเกอิชา) ทั้งมารยาทในพิธีชงชา การบรรเลง Shamisen การร่ายรำ ทักษะการพูดคุย และอื่นๆ โดยการเป็นไมโกะจะต้องผ่านการเรียนรู้มากมายซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการคือ การเรียนรู้ศิลปะในโรงเรียนสอนเฉพาะทางที่มีในทุกๆ Hanamachi การเรียนรู้ในการให้ความบันเทิงจากการทำงานหรือจากรุ่นพี่ และการเรียนรู้ทักษะทางสังคมใน Hanamachi อันซับซ้อน ซึ่งอาจได้มาจากการเดินไปทำงานผ่านถนนที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว การพบปะหรือรับของขวัญจากแฟนคลับ ที่มีความสำคัญสำหรับพวกเธอในการสร้างเครือข่ายสนับสนัน เพื่อให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้ในฐานะเกอิชา


     ปัจจุบันไมโกะถูกยกให้เป็นสิ่งที่สวยงามในสายตาชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว ลักษณะของไมโกะแตกต่างจากเกโกะค่อนข้างมาก ปกกิโมโนสีแดงถูกดึงต่ำลงไปด้านหลัง เน้นให้เห็นผิวบริเวณต้นคอ ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดใจในสมัยก่อน ไมโกะยังทาแป้งขาวบนทั้งใบหน้าและคอ โดยจะเว้นให้เหลือผิวจริงบ้างด้วยการทาแป้งเป็นสองแฉก หรือสามแฉกในโอกาสพิเศษ กิโมโนของไมโกะจะเน้นสีสัน สวมคู่กับโอบิที่มัดด้วยเงื่อนที่มีความยาวถึงข้อเท้า และรองเท้า Okobo (おこぼ) ที่สูงเกือบ 10 เซนติเมตร ด้วยลักษณะของกิโมโนและรองเท้าที่หนัก จึงทำให้ไมโกะสามารถเดินได้ด้วยก้าวเล็กๆ เท่านั้น ส่วนทรงผมนั้นมีหลายทรงสำหรับไมโกะ หลักๆ คือ 5 ทรง ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามโอกาสและความอาวุโส เรียกทรงผมเหล่านี้รวมๆ ว่า Nihongami (日本髪) ประดับด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ (Kanzashi : かんざし) และเพราะทรงผมแบบญี่ปุ่นโบราณนั้นทำยากและแพงมาก ทำให้ไมโกะจะต้องรักษาผมของพวกเธอไว้ให้คงอยู่ 1 สัปดาห์ ด้วยการนอนบนหมอนสูง (Takamakura : 高枕) และสามารถสระผมพร้อมทำผมใหม่ได้เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยมีอีกจุดประสงค์หนึ่งเพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตแบบโบราณให้คงอยู่ต่อไป

หมอนสูง (Takamakura)

     เมื่อไมโกะมีอายุได้ 20-21 ปีแล้ว เธอจะได้เข้าพิธี Erikae (衿替 แปลตรงตัวว่า “การเปลี่ยนปกกิโมโน”) เพื่อเลื่อนขั้นขึ้นเป็นเกอิชาเต็มตัว โดยจะต้องผ่านการเป็นไมโกะมาแล้ว 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับว่าเธอเริ่มเป็นไมโกะตั้งแต่อายุเท่าใด เพราะ Hanamachi ในเกียวโต กำหนดให้ไมโกะมีอายุมากที่สุดได้ 21 ปี หากถึงกำหนดแล้วต้องได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเกโกะ และประกอบอาชีพนี้ต่อไปได้จนกว่าเธอจะลาออก

Fumiou, Tai Sakura Okiya
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Wikipedia

วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ตำรับอาหารญี่ปุ่น #5: Chawanmushi

     Chawanmushi (茶碗蒸し) แปลตรงตัวว่า "เมนูนึ่งในถ้วยชา" เป็นคัสทาร์ตไข่สไตล์ญี่ปุ่น ที่ไม่เหมือนคัสทาร์ตทั่วไปตรงที่ของญี่ปุ่นจะทานเป็นอาหารจานหลัก ไม่ใช่ขนมหวาน ภายในประกอบไปด้วยไข่ปรุงรสด้วยซีอิ๊ว ดะชิ และมิริง ทั้งยังมีส่วนประกอบอีกมากมายบรรจุในถ้วยชา เช่น เห็ด Shitake, Kamaboko, Yuri-ne, แปะก๊วย และกุ้ง โดยมีวิธีทำคล้ายไข่ตุ๋นของจีน แต่แตกต่างตรงส่วนโรยหน้า และเนื่องจากเมนูนี้มีลักษณะค่อนข้างเละ Chawanmushi จึงกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่เมนูอาหารญี่ปุ่นที่ต้องรับประทานด้วยช้อนแทนตะเกียบ

Chawanmushi

ตำรับ Chawanmushi
สำหรับ 4 ที่

วัตถุดิบ
     1. ไข่ 3 ฟอง
     2. ซุปดะชิ 2 ถ้วย (480 มิลลิลิตร)
     3. เกลือ ½ ช้อนชา
     4. ซีอิ๊ว 2 ช้อนชา
     5. สาเก 1 ช้อนชา
     6. มิริง 1 ช้อนชา
     7. กุ้ง 2-4 ตัว (หั่นได้ถ้าใหญ่เกินไป)
     8. สะโพกไก่ ½ ชิ้น (หั่นพอดีคำ)
     9. เห็ดหอม 1-2 ต้น (หั่น)
     10. ต้นหอมหั่นบาง

วิธีทำ
     1. หมักไก่และกุ้งในชามแยกกัน โดยหมักไก่ด้วยซีอิ๊ว ½ ช้อนชา และสาเก ½ ช้อนชา ในชามอีกใบหมักกุ้งด้วยซีอิ๊ว ½ ช้อนชา และสาเก ½ ช้อนชาเช่นกัน แล้วทิ้งไว้ 2 นาที
     2. ผสมไข่ ซุปดะชิ เกลือ ซีอิ๊ว 1 ช้อนชา และมิริงเข้าด้วยกันในชามใบใหญ่อีกใบ จากนั้นนำไข่ผสมแล้วที่ได้มากรองผ่านกระชอน
     3. แบ่งส่วนผสม ซึ่งได้แก่ ไก่ กุ้ง เห็ดหอมทั้งหมดเป็น 4 ส่วน ใส่ในถ้วย 4 ใบเท่าๆกัน (สำหรับเสิร์ฟ 4 ที่) เทไข่ที่ผสมแล้วจากข้อ 2 ลงไปประมาณ ¾ ของถ้วย ปิดด้วยฟอยล์ แล้วนำไปนึ่ง
     4. นึ่งด้วยอุณหภูมิปานกลางเป็นเวลาประมาณ 10-15 นาที สามารถทดสอบได้ด้วยการจิ้มลงไปในเนื้อไข่ด้วยส้อม (หรือไม้เสียบลูกชิ้น) หากไข่สุกแล้วจะมีซุปใสๆ ติดมากับส้อม
     5. โรยหน้าด้วยต้นหอมหั่นบาง แล้วปิดฝาถ้วยทิ้งไว้ 2-3 นาที ก่อนเสิร์ฟ

Fumiou, Tai Sakura Okiya
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Wikipedia และ Japanesecooking101

วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

กิโมโนศาสตร์ #5: Houmongi และ Tsukesage

     กิโมโน Houmongi (訪問着着物)

กิโมโน Houmongi จะมีลายที่ต่อเนื่องข้ามชิ้นผ้า

     กิโมโน Houmongi แปลตรงตัวได้ว่า "เครื่องสวมใส่ของผู้มาเยือน" เพราะเป็นกิโมโนสำหรับใช้สวมเมื่อต้องออกนอกบ้านของหญิงชนชั้นสูงในยุค Meiji (ค.ศ.1868-1912) กิโมโนประเภทนี้จัดอยู่ในกิโมโนระดับกึ่งทางการ ซึ่งสามารถสวมใส่ได้ทั้งหญิงโสดและหญิงที่แต่งงานแล้ว และนิยมใส่ในงานเลี้ยงหรืองานแต่งงาน โดยกิโมโน Houmongi นี้จะมีแขนที่สั้นกว่า Furisode (振袖) มาก และจะมีลายที่ต่อเนื่องกัน มากกว่า Tomesode (留袖) ที่มีลายเฉพาะด้านล่างถึงเอว

     สำหรับโอบิที่นิยมสวมคู่กันนั้น โดยทั่วไปจะเป็นโอบิ Fukuro (袋帯) ผูกด้วยเงื่อน Taiko (Taiko Musubi : 太鼓結び)

     กิโมโน Tsukesage (付け下げ着物)


กิโมโน Tsukesage มีลายเล็กๆ และไม่ต่อเนื่อง

     กิโมโน Tsukesage เป็นกิโมโนที่คล้ายกับ Houmongi แต่จะมีระดับความเป็นทางการที่น้อยกว่า และจะมีลายที่เล็กกว่า ซึ่งส่วนมากจะไม่ค่อยต่อเนื่องกันเหมือนกิโมโน Houmongi โดยมีลายที่ล่างระดับเอว บริเวณไหล่และแขนขวา และจะไม่ข้ามชิ้นผ้า ยกเว้นส่วนด้านหน้า (เมื่อสวม)

     กิโมโนประเภทนี้ถูกมองว่ามีความเป็นทางการน้อยกว่ากิโมโน Houmongi เว้นแต่ว่าจะมีสัญลักษณ์ประจำตระกูลปรากฎอยู่ด้านหลังตัวกิโมโน สิ่งนี้จะทำให้กิโมโน Tsukesage มีความเป็นทางการมากขึ้น


Fumiou, Tai Sakura Okiya
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Maihanami - blog

วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

รำอย่างงาม ตามฉบับญี่ปุ่น #4: Rokudan Kuzushi (Gion Kobu)

เพลง : Rokudan Kuzushi (六段くずし)
แบบฉบับ : Gion Kobu


By: Kei Gekiku on Youtube
ไมโกะ Katsueจากโอกิยะ Odamoto 
และเกโกะ Satsuki จากโอกิยะ Tsurui

By: woi3ocho2jin1 on Youtube
ไมโกะ Momokazu จากโอกิยะ Odamoto

By: asa1bann2 on Youtube
เกโกะ Terukoma จากโอกิยะ Tsurui
และเกโกะ Mahiro จากโอกิยะ Mi no Yae

Fumiou, Tai Sakura Okiya

วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เกอิชา นาฏนารี #4: ระบบ และแหล่งของเกอิชา

     หากกล่าวถึงระบบและลำดับขั้นของเกอิชาที่ซับซ้อนที่สุด คงหนีไม่พ้นเกียวโต สังคมเกอิชาในเกียวโตแบ่งออกเป็น 5 เขต หรือที่เรียกว่า “Gokagai (五花街)” หรือ “Hanamachi (花街 : เมืองดอกไม้)” ได้แก่ Gion Kobu (祇園甲部), Ponto-chou (先斗町), Kamishichiken (上七軒), Gion Higashi (祇園東), และ Miyagawa-chou (宮川町) ด้วยความเลอค่า และการบริหารงานด้วยนักฐุรกิจและนักการเมืองที่ทรงพลัง ทำให้ Gion Kobu, Ponto-chou และ Kamishichiken ถือเป็นระดับสูง (อาจกล่าวได้ว่า Gion Kobu อยู่ในระดับสูงที่สุด) และหนังสือของ Dalby (1983) จากประสบการณ์ตรงของเธอในปี 1975 กล่าวถึงเกโกะในสองเขตที่เหลือ (Gion Higashi และ Miyagawa-chou) แม้จะมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับเขตอื่น แต่กลับถูกมองว่ามีระดับสูงน้อยกว่าสามเขตที่กล่าวมา


แผนที่แสดงเขตเกอิชาในเกียวโตทั้ง 5 เขต

สัญลักษณ์ของแต่ละเขตเกอิชาในเกียวโต

     เกอิชาไม่ได้มีอยู่แค่ในเกียวโต แต่ยังมีอยู่ในเมืองและจังหวัดอื่นๆ ในญี่ปุ่นอีก เช่น เขต Asakusa (浅草) ในโตเกียว, จังหวัดนะระ, เมือง Anjou (安城) จังหวัดไอชิ และอีกมากมาย

แผนที่แหล่งเกอิชาทั่วญี่ปุ่น

Fumiou, Tai Sakura Okiya
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Wikipedia